การสร้างแบรนด์ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
การสร้างแบรนด์ นอกจากชื่อแบรนด์ โลโก้ ดีไซน์ ที่ลูกค้ามองเห็นเป็นรูป และสัมผัสได้ทางตาแล้ว ยังมีอีก 4 ประสาทสัมผัส ที่ช่วยทำให้ลูกค้า “เข้าถึงแบรนด์” และรับรู้ “อารมณ์ความเป็นแบรนด์” มากขึ้น นั่นก็คือ เสียง กลิ่น รส และสัมผัส นั่นเอง

สมมุติว่าเรายืนมองรูปป่า อยู่ใน Art gallery เราก็อาจจะรู้สึกถึงความเป็นป่าได้แค่ระดับนึงเท่านั้น แต่ถ้าในนั้น มีเสียงธารน้ำ เสียงนกร้อง กลิ่นความชื้นในป่า มีใบไม้จริงๆ ให้ได้จับ เราคงคิดว่าเราหลุดเข้าไปอยู่ในป่ากันเลยทีเดียววว ฮ่าๆๆๆๆๆ นี่แหละ คือ การสร้างแบรนด์ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่เราจะมาพูดถึงกัน บางคนอาจคิดว่า ทำแบรนด์ของตัวเอง ก็แค่ใช้ประสาทสัมผัสทางรูปก็จบแล้ว (เช่น โลโก้ ดีไซน์) เหมือนที่คนอื่นๆ ทำกัน แต่การสร้างแบรนด์ผ่านหลายๆ ประสาทสัมผัสรวมกันสำคัญมาก โดยเฉพาะแบรนด์ที่อยู่ในตลาดเกรด Medium-high เพราะเราต้องทำให้ลูกค้าเคลิบเคลิ้ม อินไปแบรนด์และตัดสินใจซื้อสินค้าของเราที่ราคาสูงกว่าแบรนด์คู่แข่ง ข้อดีของการสร้างแบรนด์โดยใช้หลายๆ ประสาทสัมผัส คือ 1. “สร้างความแตกต่างหรือเป็นเอกลักษณ์” ขั้นสุด (คิดดูใครมันจะมาบังเอิญ ทำเหมือนเราครบทั้ง 5 อย่าง เว้นแต่ว่ามันตั้งใจ copy เรา)
2. “ทำให้ลูกค้าจดจำได้ง่ายขึ้น” เช่น ปิดตาแล้วได้กลิ่นปุ๊ป รู้เลย อ้อออ แบรนด์นี้นั่นเอง
3. “ทำให้ลูกค้าเคลิบเคลิ้มไปกับอารมณ์ที่เราสร้างขึ้น” -> และซื้อสินค้าเรา ฮู่เล่~
คราวนี้มาดูแต่ละอันกัน
→ รูป
คือสิ่งที่ลูกค้ามองเห็นแบรนด์เรา ซึ่งก็คือโลโก้ และดีไซน์ต่างๆ ในแบรนด์ ซึ่งเดี๋ยวโพสต์ต่อๆไป เราจะมาเจาะลึกเรื่องดีไซน์ของแบรนด์แต่ละสไตล์ๆ กันอีกที ซึ่งเยอะมากกกกกก สำหรับดีไซน์ ก็จะมีหลายอย่างมาก เช่น ดีไซน์ของ Product ที่เราจะขาย โฆษณา โปสเตอร์ ฟอนท์ที่ใช้ รูปที่ใช้ ทุกอย่างควรต้อง “ไปในทางเดียวกัน” → เสียง
ยกตัวอย่างง่ายสุด คือ ธุรกิจร้านอาหาร สมมุติเราเปิดร้านอาหารเกาหลี แต่เราเปิดเพลงไทย ลูกค้าจะอินกับอาหารเกาหลีที่ลูกค้ากินมั้ย ลูกค้าอาจจะคิดว่า เอ้ะ เป็นร้านเกาหลีปลอมป่ะ? เสียงจึงเป็นประสาทสัมผัส ที่ช่วยบิ้วท์อารมณ์ลูกค้า และทำให้ลูกค้าอิน ได้ดีเหมือนกัน → กลิ่น
เคยเป็นมั้ย เราไม่ได้รู้สึกอยากกินกาแฟหรอก แต่เวลาเดินผ่าน Starbuck ทีไร ได้กลิ่นหอม ของกาแฟแล้วอดไม่ได้ อยากจะซื้อกินทุกที → รส
เช่น ร้านอาหารไทยบางร้าน ที่ดังในหมู่ต่างชาติมากกก แต่คนไทยไม่ค่อยเข้า เพราะว่า Target เค้าเป็นลูกค้าต่างชาติ เค้าจึงต้องทำให้รสชาติถูกปากกลุ่มลูกค้านั่นเอง → สัมผัส
การเลือก Material หรือวัสดุ โดยเฉพาะในธุรกิจร้านอาหาร หรือ ธุรกิจที่มีหน้าร้าน ก็เป็นส่วนสำคัญ ในการแสดงออกถึงแบรนด์เช่นเดียวกัน
__
จริงๆ แล้ว ใน 1 แบรนด์เราไม่จำเป็นต้องใช้ประสาทสัมผัสครบทั้ง 5 ก็ได้ ขึ้นอยู่ประเภทของธุรกิจ แต่เราควรจะใช้ให้ได้ “มากที่สุด” (โดยเฉพาะ Medium-High แบรนด์) และที่สำคัญคือทุกสัมผัส “ต้องไปในทางเดียวกัน” ยกตัวอย่างเดิม ถ้าเราดูรูปป่า แต่ได้กลิ่นไอศครีม คงจะไม่เข้ากันถูกมั้ย กินไอศครีมในป่า ก็คงจะแปลกๆ เดี๋ยวโพสต์หน้าบูมจะหยิบแบรนด์ๆ นึง ที่สร้างแบรนด์ผ่านประสาทสัมผัสได้เกือบครบทุกสัมผัส และทำได้ดีเลย มาเล่าให้อ่านกัน
Boom P.